ปุ๋ยอินทรีย์ หรือ ปุ๋ยเคมี อย่างไหนดีกว่ากันนะ ?

เรามาหาคำตอบกันกับ ดร ปุ๋ย กันเลยนะครับ

เดิมเรามองปุ๋ยว่าเป็นแหล่งแร่ธาตุอาหาร และเรามักดูคุณค่าปุ๋ยจากระดับธาตุอาหารหลักของพืชคือ NPK หรือธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม เนื่องจากปุ๋ยเคมีมีระดับธาตุอาหารสูง (NPK 20-60%) และมีอัตราใช้เฉลี่ยเพียง 25-50กก./ไร่ ในขณะที่ปุ๋ยอินทรีย์มีแร่ธาตุเหล่านี้ต่ำ (NPK 1-3%)

จึงแนะนำให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ตามเกณฑ์ระดับ NPK ที่เทียบเท่าปุ๋ยเคมี
สูงถึง 200-1,000กก./ไร่ ซึ่งเป็นภาระต่อการจัดหาแรงงานการใส่ปุ๋ย และเป็นภาระต้นทุนปุ๋ยอย่างมากต่อเกษตรกร ทั้งๆที่ราคาต่อหน่วยของปุ๋ยอินทรีย์ถูกกว่าปุ๋ยเคมีถึง1-3 เท่าตัว แต่เมื่อเทียบอัตราการใช้ที่สูง ก็กลายเป็นว่า การใช้ปุ๋ยอินทรีย์มีภาระต้นทุนต่อไร่สูงกว่าปุ๋ยเคมีมาก จึงไม่เป็นที่นิยมนัก

แท้จริงแล้ว ปุ๋ย 2 ชนิดนี้ ทำหน้าที่แตกต่างกัน และเราไม่ควรมองคุณค่าของปุ๋ยแค่ระดับ NPK เท่านั้น เพราะถึงแม้ปุ๋ยอินทรีย์จะมีระดับ NPK ที่ต่ำกว่า
แต่ก็มีแร่ธาตุอื่นๆเช่น ธาตุอาหารรองและจุลธาตุ อีกทั้งมีอินทรีย์วัตถุสูง
(OM มากกว่า20%) ซึ่งทำหน้าที่ต่อดินและรากพืช มันยังช่วยพัฒนาโครงสร้างดินให้ร่วนซุย ช่วยอุ้มน้ำและธาตุอาหารให้ส่งต่อถึงพืชอย่างมีประสิทธิภาพ

ช่วยลดพิษความเป็นกรดและความเค็มจากปุ๋ยเคมีได้ ตลอดจนทำหน้าที่สร้างชีวภาพในดิน เป็นอาหารขยายเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ช่วยปลดปล่อยย่อยสลายแร่ธาตุในดินและตรึงอาหารให้พืช จึงถือได้ว่าปุ๋ยอินทรีย์มีคุณค่าประโยชน์มหาศาลไม่แพ้ปุ๋ยเคมี และต่างทำหน้าที่คนละด้านกัน จึงต้องใช้ร่วมกันจึงเหมาะสมที่สุด

……….

“ดร. ปุ๋ย”

.
https://www.facebook.com/ninphetfer
https://www.facebook.com/StFertilityCoLtd